ปู่พาท่องนรกภูมิ

***นิทานเรื่องเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นทานมารมี*** “เป็นความชื่อส่วนบุคคล ควรใช้ วิจารณญาณ ในการอ่าน”

          เพื่อให้ได้อัฎรส ในการเล่านิทาน ข้าพเจ้า ขอเล่าเหมือนเอาตัวเองเข้าไปใส่ในเนื้อเรื่อง ส่วนพระฤษี ข้าพเจ้าจะใช้ แทนปู่ เพื่อดูเนื้อหานิทานจะได้แนบแน่น สนุกขึ้นไปอีกนะครับ
ข้าพเจ้าเป็นคนอีกคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องไสย์ศาสตร์ และบาปบุญคุณโทษ จึงได้นำประสบการณ์ทีได้เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้ามาเล่าให้ท่านทั้งหลายได้สร้างบุญกุศลเพื่อเราในภพหน้าและภพปัจจุบัน
          ซึ่งอยู่มาคืนหนึ่งข้าพเจ้าได้เห็นฤๅษีใส่ชุดสีขาวมาหาข้าพเจ้า และได้ชวนข้าพเจ้าให้ตามท่านไป ท่านบอกว่า “มาเถืดปู่จะพาเจ้าไปเที่ยว” ข้าพเจ้าก็เดินตามปู่ท่านไป โดยไม่รู้ตัว… พอเดินไปได้สักพักใหญ่ข้าพเจ้าต้องตกใจว่าเอ๊ะ ทำไมคนที่นี่ถึงหน้าตาเศร้าหมองและเนื้อตัวเขียว เหมือนดั่งคนที่ตายไปแล้ว
          ข้าพเจ้าก็เดินตามปู่และดูไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงของคนทักว่า …. เอ้า! มาทำอะไรที่นี่
          ข้าพเจ้าก็เหลียวไปดู ก็ยิ่งทำให้ตัวของข้าพเจ้าตกใจมาก …. เอ๊ะ! ไอ้คน คนนี้ มันตายไปตั้งนานแล้วนี่
          ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้าก็ลองเหลียวไปทางด้านซ้ายและด้านขวา และข้าพเจ้าก็เห็นญาติพี่น้องของข้าพเจ้าและแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วท่านหันมายิ้มให้ข้าพเจ้า และท่านก็พูดว่า “มาได้ยังไง ใครพามาที่นี่ และรู้ไหมว่าที่นี่ ที่ไหน” ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า “ไม่รู้เหมือนกัน เดินตามฤๅษีมา ท่านบอกว่า ให้มาเที่ยวด้วยกัน จะได้รู้ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น” แม่ข้าพเจ้าและญาติก็บอกว่า “ที่นี่ ที่ทำโทษสำหรับคนที่ตายไปแล้ว”
          …. เอ่อ! เกือบลืมไปตอนที่แม่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยุ่แม่ของข้าพเจ้าได้ล้มลงเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่ตอนที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นแม่ของข้าพเจ้าเดินได้และแข็งแรง หน้าตาสดใสอย่างกับคนไม่มี โรคภัย และยิ่งทำให้ข้าพเจ้าแปลกใจมาก เมื่อท่านรู้ว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ ท่านก็พูดออกมาว่า “แล้วลูกแม่หมั่นทำบุญกุศลไว้นะลูกทำบุญให้กับญาติพี่น้องของเองบ้าง เวลามาที่นี่จะได้ไม่ต้องโดนทรมานเหมือนกันคนอื่น ๆ คนที่เดินไม่ได้ หรือตาบอดและ คนอื่น ๆ พอมาอยุ่ที่แห่งนี้ จะปกติเหมือนกับไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน”
          ข้าพเจ้าจากแม่และญาติ พี่น้องของข้าพเจ้า เดินมาอีกไม่ไกลนัก ข้าพเจ้าก็หิวน้ำจนทนไม่ได้ จึงเดินไปหาน้ำที่ตั้งอยู่เรียงรายแถวนั้น ข้าพเจ้าก็ได้คว้าขวดน้ำทันที เพราะความหิว แต่แล้วข้าพเจ้าก็ต้องปล่อยขวดน้ำที่ถือไว้ทันทีเช่นกัน เพราะว่าขวดน้ำร้อนดั่งไฟ มีคนที่ยืนอยุ่ตรงนั้นได้พูดขึ้นว่า “นั่นไม่ใช่ของเองๆ กินไม่ได้หรอกโว้ย เองต้องเดินไปอีกสักหน่อย ตรงทางสามแพร่ง นั้นแหละเองถึงจะกินได้ เพราะว่าไม่มีเจ้าของ คนเขาอุทิศมาไม่เจาะจง ว่าของของใคร ทำอุทิศให้กับผีไม่มีญาติ และเจ้ากรรมนายเวร” 
          คนที่ดูแลตรงทางสามแพร่งได้บอกกับข้าพเจ้าว่า “หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับตัวเองบ้างถึงเรายังไม่ตายก็ตามที เองก็ต้องทำบุญให้มาก ๆ ถึงจะไม่ต้องโดนทรมานเหมือนกับคนอื่น ๆ เขา ต้องทำบุญกรวดน้ำให้กับตัวของเราเอง และญาติ ๆ ของเราจะได้รับส่วนกุศลที่เราทำให้ในครั้งนี้ จะได้อยู่เย็นเป็นสุข”
          ซึ่งเหตุการดังกล่าวนั้น ข้าพเจ้านำมาบอกเล่าสู่กันฟัง จะได้เป็นวิทยาทานที่ดีให้ท่านที้งหลายได้นำไปพิจารณาว่าเราสมควรทำหรือเปล่า???

TAGS:

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

thThai
เว็บไซต์ของเรามีการจัดเก็บคุกกี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น กรุณาอ่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ให้ความยินยอม
เรียนรู้เพิ่มเติม
เว็บไซต์ของเรามีการจัดเก็บคุกกี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น กรุณาอ่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ให้ความยินยอม
เรียนรู้เพิ่มเติม